เลิศชาย ปานมุข (2558). ได้กล่าวว่า
แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของทฤษฏีนี้
คือ ความรู้มีหลายประเภท
บางประเภทสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง บางประเภทมีความซับซ้อนมาก จำเป็นต้องใช้ความสามารถในขั้นสูง หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้ คือ
การจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบซึ่งเริ่มจากง่ายไปหายากมีทั้งหมด 9 ขั้น
สยุมพร ศรีมุงคุณ (2555). ได้กล่าวว่า แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ของทฤษฏีนี้ คือ
ความรู้มีหลายประเภท บางประเภทสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง
บางประเภทมีความซับซ้อนมาก จำเป็นต้องใช้ความสามารถในขั้นสูง
หลักการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฏีนี้ คือ
การจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบซึ่งเริ่มจากง่ายไปหายากมีทั้งหมด 9
ขั้น ดังนี้
ขั้นที่
1
สร้างความสนใจ(Gaining attention)
ขั้นที่
2
แจ้งจุดประสงค์(Informing the learning)
ขั้นที่
3 กระตุ้นให้ผู้เรียนระลึกถึงความรู้เดิมที่จำเป็น(Stimulating
recall of prerequisite learned capabilities)
ขั้นที่
4
เสนอบทเรียนใหม่(Presenting the stimulus)
ขั้นที่
5
ให้แนวทางการเรียนรู้(Providing learning guidance)
ขั้นที่
6
ให้ลงมือปฏิบัติ(Eliciting the performance)
ขั้นที่
7
ให้ข้อมูลป้อนกลับ(Feedback)
ขั้นที่
8
ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ตามจุดประสงค์(Assessing the
performance)
ขั้นที่
9 ส่งเสริมความแม่นยำและการถ่ายโอนการเรียนรู้(Enhancing
retention and transfer)
ครูบ้านนอก.คอม ( 2550 ). ได้กล่าวว่า ได้นำเอาแนวแนวความคิด 9 ประการ
มาใช้ประกอบการออกแบบบทเรียนคอมพิวเตอร์
เพื่อให้ได้บทเรียนที่เกิดจากการออกแบบในลักษณะการเรียนการสอนจริง
โดยยึดหลักการนำเสนอเนื้อหาและจัดกิจกรรมการเรียนรู้จากการมีปฏิสัมพันธ์
หลักการสอนทั้ง 9 ประการได้แก่
1. เร่งเร้าความสนใจ (Gain Attention)
2. บอกวัตถุประสงค์ (Specify Objective)
3. ทบทวนความรู้เดิม (Activate Prior Knoeledge)
4. นำเสนอเนื้อหาใหม่ (Present New Information)
5. ชี้แนะแนวทางการเรียนรู้ (Guide Learning)
6. กระตุ้นการตอบสนองบทเรียน (Elicit Response)
7. ให้ข้อมูลย้อนกลับ (Provide Feedback)
8. ทดสอบความรู้ใหม่ (Assess Performance)
9. สรุปและนำไปใช้ (Review and Transfer)
สรุป
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มผสมผสานของกานเย (Gagne’s
eclecticism) สรุปได้ว่า การเรียนรู้ของทฤษฏีนี้ คือ ความรู้มีหลายประเภท
บางประเภทสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องใช้ความคิดที่ลึกซึ้ง บางประเภทมีความซับซ้อนมาก จำเป็นต้องใช้ความสามารถในขั้นสูง
การจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบซึ่งเริ่มจากง่ายไปหายากมีทั้งหมด
9 ขั้น
ขั้นที่
1
สร้างความสนใจ(Gaining attention)
ขั้นที่
2
แจ้งจุดประสงค์(Informing the learning)
ขั้นที่
3 กระตุ้นให้ผู้เรียนระลึกถึงความรู้เดิมที่จำเป็น(Stimulating
recall of prerequisite learned capabilities)
ขั้นที่
4
เสนอบทเรียนใหม่(Presenting the stimulus)
ขั้นที่
5
ให้แนวทางการเรียนรู้(Providing learning guidance)
ขั้นที่
6
ให้ลงมือปฏิบัติ(Eliciting the performance)
ขั้นที่
7
ให้ข้อมูลป้อนกลับ(Feedback)
ขั้นที่
8
ประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ตามจุดประสงค์(Assessing the
performance)
ขั้นที่
9 ส่งเสริมความแม่นยำและการถ่ายโอนการเรียนรู้(Enhancing
retention and transfer)
ที่มา
เลิศชาย ปานมุข. (2558).
http://www.lertchaimaster.com/forum/index.php?topic=36.0. [ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2561
สยุมพร ศรีมุงคุณ. (2555).
https://www.gotoknow.org/posts/341272.
[ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561
ครูบ้านนอก.คอม. (2550). https://www.kroobannok.com/92.
[ออนไลน์] เข้าถึงเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2561
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น